การจดทะเบียนพาณิชย์
จดทะเบียนการค้า จดทะเบียนพาณิชย์ มีกี่แบบ?
การจดทะเบียนการค้า หรือ จดทะเบียนพาณิชย์ มี 2 แบบ คือ
- จดทะเบียนพาณิชย์
- จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ใครต้องจดทะเบียนการค้า จดทะเบียนพาณิชย์?
ผู้ที่ทำธุรกิจขายสินค้า ไม่ว่าจะทำในนามบุคคลธรรมดา ห้างหุ้นส่วนสามัญ ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือบริษัท จะต้องจดทะเบียนการค้าหรือจดทะเบียนพาณิชย์
แต่ถ้าเป็นธุรกิจประเภทบริการอย่างเดียว ซึ่งไม่มีการขายสินค้าเกี่ยวข้อง ไม่ต้องจดทะเบียนร้านค้าหรือจดทะเบียนพาณิชย์ ตรวจสอบประเภทธุรกิจที่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์เพิ่มเติมได้ที่นี่
โดยจะต้องจดทะเบียนการค้าหรือจดทะเบียนพาณิชย์ภายใน 30 วัน นับจากวันเริ่มประกอบกิจการ
เอกสารที่ต้องใช้ในการจดทะเบียนการค้า จดทะเบียนพาณิชย์
- คำขอจดทะเบียนพาณิชย์ (แบบ ทพ.)
- สำเนาบัตรประจำตัว หรือ หนังสือรับรองบริษัทหรือห้างหุ้นส่วน
- สำเนาทะเบียนบ้านของสถานที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่
- กรณีไม่ได้เป็นเจ้าบ้าน ต้องมี (1) หนังสือให้ความยินยอมใช้สถานที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่ หรือ (2) สำเนาสัญญาเช่า
- สำเนาบัตรประจำตัวผู้ขอจดทะเบียน และหนังสือมอบอำนาจ (กรณีมอบอำนาจให้จดทะเบียนให้)
การจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ธุรกิจอะไรต้องจดทะเบียนพาณิชน์อิเล็กทรอนิกส์ ?
บุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคล ที่ทำธุรกิจออนไลน์ ดังต่อไปนี้ ต้องจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
- ขายสินค้าออนไลน์ ทางเว็บไซต์ หรือ สื่อสังคมออนไลน์ เช่น Facebook
- บริการอินเทอร์เน็ต (Internet Service Provider : ISP)
- ให้เช่าพื้นที่ของเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย (Web Hosting)
- ให้บริการเป็นตลาดกลางในการซื้อขายสินค้า หรือบริการ (E-marketplace)
โดยขั้นตอนและค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์นั้นเหมือนกับการจดทะเบียนพาณิชย์แบบปกติทุกประการ แต่จะต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติม ดังนี้
- รายละเอียดเกี่ยวกับเว็บไซต์
- เอกสารการจดโดเมนเนม ที่แสดงว่าผู้จดเป็นเจ้าของโดเมนเนม
- พิมพ์หน้าแรกของร้านค้าออนไลน์สินค้า/บริการ และวิธีการสั่งซื้อ วิธีการชำระเงิน วิธีการส่งสินค้า
เครื่องหมาย DBD Registered
ผู้ประกอบการที่จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แล้วสามารถขอรับเครื่องหมาย เพื่อนำไปติดบนเว็บไซต์ เพื่อยืนยันการมีตัวตนอยู่จริง และทำให้เว็บไซต์มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการสามารถยื่นคำขอที่เว็บไซต์ www.trustmarkthai.com